ครูมนตรี ตราโมท
เมื่อกล่าวถึง "ครูมนตรี ตราโมท" ก็จะมีน้อยคนมากในวงการดนตรีไทย ที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงของท่าน ในฐานะที่เป็นครูเพลงที่ถือเป็นที่สุดของยุคคนหนึ่ง ท่านได้แต่งเพลงขึ้นมากมาย ซึ่งล้วนแต่ไพเราะเสนาะหู มีชื่อเสียงมาก ด้วยความอัจฉริยะของครู ท่านจึงได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติมากมาย ชมรมดนตรีไทยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จึง อยากจะเสนอชีวประวัติและผลงานของท่านให้สู่สายตานักดนตรีไทยรุ่นหลังได้ชื่นชมกัน...
| • ครูมนตรีเริ่มเรียนปี่พาทย์กับครูบุญสม นักฆ้อง | |
| • ต่อมาเรียนระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ แคลริเนต และหลักการแต่งเพลงกับครูสมบุญ สมสุวรรณ | |
| • เรียนวิธีแต่งเพลงกับพระยาประสานดุริยศัพท์ (แปลก ประสานศัพท์) และหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) | |
| • เรียนฆ้องวงใหญ่เพิ่มเติมกับหลวงบำรุงจิตรเจริญ (ธูป สาตนวิลัย) | |
| • เรียนกลองแขกกับพระพิณบรรเลงราช (แย้ม ประสานศัพท์) | |
| • เรียนระนาดเอกเพิ่มเติมกับพระเพลงไพเราะ (โสม สุวาทิต) และหลวงชาญเชิงระนาด (เงิน ผลารักษ์) | |
| • เรียนระนาดทุ้มกับพระพาทย์บรรเลงรมย์ (พิมพ์ วาทิน) และพระยาประสานดุริยศัพท์ (แปลก ประสานศัพท์) | |
| • ได้รับการครอบประสิทธิ์ประสาทการเรียนเพลงองค์พระพิราพซึ่งเป็นเพลงหน้าพาทย์ชั้นสูงสุดกับครูทองดี ชูสัตย์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ | |
| • เรียนวิชาโน้ตสากล ทั้งเทียวรี (ทฤษฎี) และฮาโมนี (การประสานเสียง) จากวิทยาลัยสากลดนตรีสถาน พระเจนดุริยางค์ (ปีติ วาทยากร) เป็นครู | |
| • ได้รับครอบให้เป็นผู้ทำพิธีไหว้ครู จากหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ | |
| • ท่านเป็นผู้มีฝีมือในการบรรเลงดนตรีได้หลายชนิด ที่ได้รับการยกย่องเป็นพิเศษคือระนาดทุ้ม เป็นผู้ตีขิมในวงหลวงเป็นคนแรก (พ.ศ.๒๔๖๗) | |
| • เป็นผู้บอกเพลงในการบันทึกเพลงไทยเป็นโน้ตสากล ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๔ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นประธาน และสมัยหลังที่หลวงวิจิตรวาทการเป็นประธาน | |
| • เป็นศิลปินคนแรกของกรมศิลปากรที่ได้ชั้นพิเศษ เมื่อ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔ | |
| • พ.ศ.๒๕๒๔ ท่านได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการของสมาคมสตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อให้ได้รับรางวัลพระราชทานโล่เกียรติยศจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะนักดนตรีไทยตัวอย่าง ซึ่งมีนักดนตรีไทยที่ได้รับพระราชทานโล่ครั้งนี้เพียง ๔ คน คือ ครูมนตรี ตราโมท ครูเฉลิม บัวทั่ง ครูบุญยง เกตุคง และคุณหญิงไพฑูรย์ กิตติวรรณ | |
| • โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทวิจิตรศิลป์ สาขาวิชาดุริยางค์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔ | |
| • ได้รับพระราชทานปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๒๓ | |
| • ได้รับพระราชทานปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตมศักดิ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ ๙ กรกฎาคม ๒๕๒๔ | |
| • ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เมื่อ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๖ | |
| • ได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ.๒๕๒๘ | |
| ๑. เพลงสามชั้น เช่น | |
| • เพลงต้อยตริ่ง พ.ศ.๒๔๖๓ แต่งร่วมกับหมื่นประคมเพลงประสาน(ใจ นิตยผลิน) | |
| • เพลงเทพไสยาสน์ พ.ศ.๒๔๗๒ | |
| • เพลงจระเข้หางยาว ทางสักวา พ.ศ.๒๔๗๔ | |
| • เพลงเทพพนม พ.ศ.๒๔๗๕ | |
| • เพลงเหาะ | |
| • เพลงขับนก | |
| • เพลงเขมรปี่แก้ว ทางสักวา | |
| เป็นต้น | |
| ๒. เพลงเถา | |
| • เพลงพม่าเห่ เถา พ.ศ.๒๔๖๖ | |
| • เพลงกาเรียนทอง เถา พ.ศ.๒๔๖๙ | |
| • เพลงขอมเงิน เถา พ.ศ.๒๔๗๐ | |
| • เพลงแขกกุลิต เถา พ.ศ.๒๔๗๒ | |
| • เพลงแขกต่อยหม้อ เถา พ.ศ.๒๔๗๒ | |
| • เพลงโสมส่องแสง เถา พ.ศ.๒๔๗๔ | |
| • เพลงขอมทรงเครื่อง เถา พ.ศ.๒๔๗๔ | |
| • เพลงกล่อมนารี เถา พ.ศ.๒๔๗๔ | |
| • เพลงแขกอะหวัง เถา พ.ศ.๒๔๗๔ | |
| • เพลงอกทะเล เถา พ.ศ.๒๔๗๕ | |
| • เพลงสมโภชพระนคร เถา พ.ศ.๒๕๒๕ | |
| • เพลงเทพสมภพ เถา พ.ศ.๒๕๓๔ | |
| • เพลงพม่าห้าท่อน ทางภาษาต่างๆ | |
| เป็นต้น | |
| ๓. เพลงสองชั้น และชั้นเดียว (แต่งเพิ่มเติมของเก่าให้เป็นเพลงเถา) | |
| • เพลงแขกมอญ ชั้นเดียว | |
| • เพลงใบ้คลั่ง ชั้นเดียว | |
| • เพลงจีนแส ชั้นเดียว | |
| • เพลงนางครวญ สองชั้นและชั้นเดียว | |
| • เพลงสุดสงวน ชั้นเดียว | |
| • เพลงสารถี ชั้นเดียว | |
| • เพลงแขกลพบุรี สองชั้นและชั้นเดียว | |
| • เพลงสาลิกาเขมร ชั้นเดียว | |
| เป็นต้น | |
| ๔. เพลงโหมโรง | |
| • โหมโรงขับไม้บัณเฑาะว์ | |
| • โหมโรงเอื้องคำ | |
| • โหมโรงรัตนโกสินทร์ | |
| • โหมโรงราโค | |
| • โหมโรงเทิด ส.ธ. | |
| • โหมโรงมหาฤกษ์ | |
| • โหมโรงมหาราช | |
| เป็นต้น | |
| ๕. เพลงเดี่ยว | |
| • เดี่ยวจะเข้ เพลงจีนแส | |
| • เดี่ยวจะเข้ เพลงเรื่องตวงพระธาตุ | |
| • เดี่ยวจะเข้ เพลงแขกมอญ | |
| • เดี่ยวระนาดทุ้ม เพลงอาเฮีย | |
| • เดี่ยวฆ้องเล็ก เพลงเชิดนอก | |
| • เดี่ยวฆ้องเล็ก เพลงกราวใน | |
| • เดี่ยวขิม เพลงลาวแพน | |
| ๖. เพลงเบ็ดเตล็ด | |
| • เพลงเสมอพม่า | |
| • เพลงเชิดแขก | |
| • เพลงเสมอลาว | |
| • เพลงโลมมอญ | |
| • เพลงโอดจีน | |
| • เพลงชื่นชุมนุมกลุ่มดนตรี | |
| เป็นต้น | |
| ๗. เพลงระบำ | |
| • ระบำเริงอรุณ | |
| • ระบำนพรัตน์ | |
| • ระบำไกรลาศสำเริง | |
| • เพลงกฤดาภินิหาร | |
| • เพลงม่านมงคล ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำ | |
| • เพลงชุมนุมเผ่าไทย (๕เผ่าไทยกลาง ไทยใหญ่ ไทยลานนา ไทยลานช้าง ไทยสิบสองจุไท ไทยอาหม) | |
| • เพลงระบำเทพบันเทิง | |
| • เพลงแม่ศรีทรงเครื่อง (ใหม่) | |
| • เพลงอัศวลีลา | |
| • เพลงมยุราภิรมย์ | |
| • เพลงมฤคระเริง | |
| • เพลงพม่าไทยอธิษฐาน | |
| • เพลงลาวไทยปณิธาน | |
| • เพลงชุมนุมฉุยฉาย | |
| • ระบำดอกบัว | |
| • ระบำฉิ่ง | |
| • เพลงระบำชุดโบราณคดี (ประกอบไปด้วยระบำทวารวดี ระบำศรีวิชัย ระบำลพบุรี ระบำเชียงแสน ระบำสุโขทัย) | |
| • เพลงรำวงมาตรฐาน (๖ เพลง ทำเฉพาะทำนอง ได้แก่ งามแสงเดือน รำมาซิมารำ ชาวไทย คืนเดือนหงาย ดวงจันทร์วันเพ็ญ และดอกไม้ของชาติ) | |
| เป็นต้น | |
| ๘. เพลงดนตรีประวัติศาสตร์ (แต่งเป็นเพลงประเภทร้องสอดดนตรี) | |
| • เพลงไทยมุง | |
| • เพลงน่านเจ้า | |
| • เพลงสุวรรณภูมิ | |
| • เพลงละว้า | |
| • เพลงขอมสุวรรณ | |
| • เพลงไทยครอง | |
| • เพลงปันไทย | |
| • เพลงสิบสองจุไท | |
| • เพลงขุนบรม | |
| • เพลงพยายาม | |
| • เพลงพระทองใหม่ | |
| • เพลงลานนา ๑ | |
| • เพลงลานนา ๒ | |
| • เพลงยามาดา | |
| • เพลงเสื้อญี่ปุ่น | |
| • เพลงฝั่งโขง | |
| เป็นต้น | |
| ๙. เพลงไทยสากล | |
| • เพลงวันรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๔๗๙ ได้รับรางวัลที่ ๑ ของสโมสรคณะราษฎร | |
| • เพลงวันชาติ | |
| • เพลงตื่นเถิด | |
| • เพลงวันปีใหม่ | |
| • เพลงดอกไม้ | |
| • เพลงในน้ำมีปลาในนามีข้าว | |
| เป็นต้น | |
| • แต่งหนังสือดุริยางคศาสตร์ไทย ภาควิชาการ | |
| • ดุริยสาส์น | |
| • หนังสือโหมโรงดนตรีไทย | |
| • คำอธิบายเพลงในหนังสือโน้ตเพลงไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้กรมศิลปกรพิมพ์จำหน่าย | |
| • คำอธิบายศัพท์ต่างๆ ในหนังสือสารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน | |
| • แต่งเพลงพร้อมบทร้องหลักสูตรวิชาขับร้องเพลงไทย สำหรับนักเรียน เช่นเพลงหนีเสือ เพลงลาวสมเด็จ เพลงเต่ากินผักบุ้ง ฯลฯ | |
| • เรื่องดนตรีไทยในหนังสือสารานุกรมสำหรับเยาวชนไทย เล่ม ๑ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสฉลอง ๒๐๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์ | |
| • บทละครเรื่องเศวตปักษี (The Phoenix ของสหประชาชาติ) | |
| • ลิลิตอิหร่านราชธรรม | |
| • เลือดสุพรรณ ทางสักวา | |
| • กาพย์ขับไม้ กล่อม พระเศวตรีสุรคชาธาร | |
| • บทร้องแก้วสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งจารึกไว้ที่ฐานพระเจดีย์ยุทธหัตถี อนุสรณ์สถานดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี | |
| • บทร้องเพลงไทยอีกหลายเพลง | |
| เป็นต้น | |
| บรรณานุกรม | |
| ๑. ดุริยางศาสตร์ไทย ภาควิชาการ, มนตรี ตราโมท สำนักพิมพ์มติชน ๒๕๔๐ | |
| ๒. สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภาคประวัตินักดนตรีและนักร้อง ฉบับราชบัณฑิตยสถาน , ราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ | |
http://tcmc.nisit.kps.ku.ac.th
อ่านต่อ :http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=292654&chapter=173#ixzz12Kj9eHyK
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น