14 ตุลาคม 2553

ครูมนตรี ตราโมท montri tramoth teacher

ครูมนตรี ตราโมท

         เมื่อกล่าวถึง "ครูมนตรี ตราโมท" ก็จะมีน้อยคนมากในวงการดนตรีไทย ที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงของท่าน ในฐานะที่เป็นครูเพลงที่ถือเป็นที่สุดของยุคคนหนึ่ง ท่านได้แต่งเพลงขึ้นมากมาย ซึ่งล้วนแต่ไพเราะเสนาะหู มีชื่อเสียงมาก ด้วยความอัจฉริยะของครู ท่านจึงได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติมากมาย ชมรมดนตรีไทยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จึง อยากจะเสนอชีวประวัติและผลงานของท่านให้สู่สายตานักดนตรีไทยรุ่นหลังได้ชื่นชมกัน...





นามเดิมว่า บุญธรรม ตราโมท เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๔๓ ปีชวด ที่บ้านท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี บิดาชื่อนายยิ้ม รับราชการตำรวจประจำเรือของของพลโทพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าคำรบ และท่านประทานนามสกุลว่า “ตราโมท” มารดาชื่อนางทองอยู่
• ครูมนตรีเริ่มเรียนปี่พาทย์กับครูบุญสม นักฆ้อง
• ต่อมาเรียนระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ แคลริเนต และหลักการแต่งเพลงกับครูสมบุญ สมสุวรรณ
• เรียนวิธีแต่งเพลงกับพระยาประสานดุริยศัพท์ (แปลก ประสานศัพท์) และหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
• เรียนฆ้องวงใหญ่เพิ่มเติมกับหลวงบำรุงจิตรเจริญ (ธูป สาตนวิลัย)
• เรียนกลองแขกกับพระพิณบรรเลงราช (แย้ม ประสานศัพท์)
• เรียนระนาดเอกเพิ่มเติมกับพระเพลงไพเราะ (โสม สุวาทิต) และหลวงชาญเชิงระนาด (เงิน ผลารักษ์)
• เรียนระนาดทุ้มกับพระพาทย์บรรเลงรมย์ (พิมพ์ วาทิน) และพระยาประสานดุริยศัพท์ (แปลก ประสานศัพท์)
• ได้รับการครอบประสิทธิ์ประสาทการเรียนเพลงองค์พระพิราพซึ่งเป็นเพลงหน้าพาทย์ชั้นสูงสุดกับครูทองดี ชูสัตย์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗
• เรียนวิชาโน้ตสากล ทั้งเทียวรี (ทฤษฎี) และฮาโมนี (การประสานเสียง) จากวิทยาลัยสากลดนตรีสถาน พระเจนดุริยางค์ (ปีติ วาทยากร) เป็นครู
• ได้รับครอบให้เป็นผู้ทำพิธีไหว้ครู จากหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔
  

ครูมนตรีเข้ารับราชการที่กรมพิณพาทย์หลวงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๐ เป็นผู้บรรเลงระนาดทุ้มประจำวงข้าหลวงเดิม ต่อมาเมื่อมีการปรับเปลี่ยนระบบราชการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงย้ายไปสังกัดกรมศิลปากรจนเกษียณอายุ และยังคงปฏิบัติราชการในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีไทยจนถึงแก่อนิจกรรม นอกจากนั้นยังได้สอนดนตรีและเป็นผู้บรรยายพิเศษแก่สถาบันต่างๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และมหาวิทยาลัยศิลปากร
• ท่านเป็นผู้มีฝีมือในการบรรเลงดนตรีได้หลายชนิด ที่ได้รับการยกย่องเป็นพิเศษคือระนาดทุ้ม
เป็นผู้ตีขิมในวงหลวงเป็นคนแรก (พ.ศ.๒๔๖๗) 
• เป็นผู้บอกเพลงในการบันทึกเพลงไทยเป็นโน้ตสากล ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๔ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นประธาน และสมัยหลังที่หลวงวิจิตรวาทการเป็นประธาน
• เป็นศิลปินคนแรกของกรมศิลปากรที่ได้ชั้นพิเศษ เมื่อ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔
• พ.ศ.๒๕๒๔ ท่านได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการของสมาคมสตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อให้ได้รับรางวัลพระราชทานโล่เกียรติยศจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะนักดนตรีไทยตัวอย่าง ซึ่งมีนักดนตรีไทยที่ได้รับพระราชทานโล่ครั้งนี้เพียง ๔ คน คือ ครูมนตรี ตราโมท ครูเฉลิม บัวทั่ง ครูบุญยง เกตุคง และคุณหญิงไพฑูรย์ กิตติวรรณ
• โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทวิจิตรศิลป์ สาขาวิชาดุริยางค์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔
• ได้รับพระราชทานปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๒๓
• ได้รับพระราชทานปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตมศักดิ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ ๙ กรกฎาคม ๒๕๒๔
• ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เมื่อ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๖
• ได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ.๒๕๒๘



ครูมนตรี ตราโมท เป็นนักดนตรีที่มีความสามารถในการแต่งเพลง ได้แต่งเพลงไทยที่มีความไพเราะและเป็นที่นิยมไว้เป็นจำนวนมาก ดังต่อไปนี้
๑. เพลงสามชั้น เช่น 
• เพลงต้อยตริ่ง พ.ศ.๒๔๖๓ แต่งร่วมกับหมื่นประคมเพลงประสาน(ใจ นิตยผลิน)
• เพลงเทพไสยาสน์ พ.ศ.๒๔๗๒
• เพลงจระเข้หางยาว ทางสักวา พ.ศ.๒๔๗๔
• เพลงเทพพนม พ.ศ.๒๔๗๕
• เพลงเหาะ
• เพลงขับนก
• เพลงเขมรปี่แก้ว ทางสักวา
เป็นต้น
๒. เพลงเถา
• เพลงพม่าเห่ เถา พ.ศ.๒๔๖๖
• เพลงกาเรียนทอง เถา พ.ศ.๒๔๖๙
• เพลงขอมเงิน เถา พ.ศ.๒๔๗๐
• เพลงแขกกุลิต เถา พ.ศ.๒๔๗๒
• เพลงแขกต่อยหม้อ เถา พ.ศ.๒๔๗๒
• เพลงโสมส่องแสง เถา พ.ศ.๒๔๗๔
• เพลงขอมทรงเครื่อง เถา พ.ศ.๒๔๗๔
• เพลงกล่อมนารี เถา พ.ศ.๒๔๗๔
• เพลงแขกอะหวัง เถา พ.ศ.๒๔๗๔
• เพลงอกทะเล เถา พ.ศ.๒๔๗๕
• เพลงสมโภชพระนคร เถา พ.ศ.๒๕๒๕
• เพลงเทพสมภพ เถา พ.ศ.๒๕๓๔
• เพลงพม่าห้าท่อน ทางภาษาต่างๆ
เป็นต้น
๓. เพลงสองชั้น และชั้นเดียว (แต่งเพิ่มเติมของเก่าให้เป็นเพลงเถา)
• เพลงแขกมอญ ชั้นเดียว
• เพลงใบ้คลั่ง ชั้นเดียว
• เพลงจีนแส ชั้นเดียว
• เพลงนางครวญ สองชั้นและชั้นเดียว
• เพลงสุดสงวน ชั้นเดียว
• เพลงสารถี ชั้นเดียว
• เพลงแขกลพบุรี สองชั้นและชั้นเดียว
• เพลงสาลิกาเขมร ชั้นเดียว
เป็นต้น
๔. เพลงโหมโรง
• โหมโรงขับไม้บัณเฑาะว์
• โหมโรงเอื้องคำ
• โหมโรงรัตนโกสินทร์
• โหมโรงราโค
• โหมโรงเทิด ส.ธ.
• โหมโรงมหาฤกษ์
• โหมโรงมหาราช
เป็นต้น
๕. เพลงเดี่ยว
• เดี่ยวจะเข้ เพลงจีนแส
• เดี่ยวจะเข้ เพลงเรื่องตวงพระธาตุ
• เดี่ยวจะเข้ เพลงแขกมอญ
• เดี่ยวระนาดทุ้ม เพลงอาเฮีย
• เดี่ยวฆ้องเล็ก เพลงเชิดนอก
• เดี่ยวฆ้องเล็ก เพลงกราวใน
• เดี่ยวขิม เพลงลาวแพน
๖. เพลงเบ็ดเตล็ด
• เพลงเสมอพม่า
• เพลงเชิดแขก
• เพลงเสมอลาว
• เพลงโลมมอญ
• เพลงโอดจีน
• เพลงชื่นชุมนุมกลุ่มดนตรี
เป็นต้น
๗. เพลงระบำ
• ระบำเริงอรุณ
• ระบำนพรัตน์
• ระบำไกรลาศสำเริง
• เพลงกฤดาภินิหาร
• เพลงม่านมงคล ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำ
• เพลงชุมนุมเผ่าไทย (๕เผ่าไทยกลาง ไทยใหญ่ ไทยลานนา ไทยลานช้าง ไทยสิบสองจุไท ไทยอาหม)
• เพลงระบำเทพบันเทิง
• เพลงแม่ศรีทรงเครื่อง (ใหม่)
• เพลงอัศวลีลา
• เพลงมยุราภิรมย์
• เพลงมฤคระเริง
• เพลงพม่าไทยอธิษฐาน
• เพลงลาวไทยปณิธาน
• เพลงชุมนุมฉุยฉาย
• ระบำดอกบัว
• ระบำฉิ่ง
• เพลงระบำชุดโบราณคดี (ประกอบไปด้วยระบำทวารวดี ระบำศรีวิชัย ระบำลพบุรี ระบำเชียงแสน ระบำสุโขทัย)
• เพลงรำวงมาตรฐาน (๖ เพลง ทำเฉพาะทำนอง ได้แก่ งามแสงเดือน รำมาซิมารำ ชาวไทย คืนเดือนหงาย ดวงจันทร์วันเพ็ญ และดอกไม้ของชาติ)
เป็นต้น
๘. เพลงดนตรีประวัติศาสตร์ (แต่งเป็นเพลงประเภทร้องสอดดนตรี)
• เพลงไทยมุง
• เพลงน่านเจ้า
• เพลงสุวรรณภูมิ
• เพลงละว้า
• เพลงขอมสุวรรณ
• เพลงไทยครอง
• เพลงปันไทย
• เพลงสิบสองจุไท
• เพลงขุนบรม
• เพลงพยายาม
• เพลงพระทองใหม่
• เพลงลานนา ๑
• เพลงลานนา ๒
• เพลงยามาดา
• เพลงเสื้อญี่ปุ่น
• เพลงฝั่งโขง
เป็นต้น
๙. เพลงไทยสากล
• เพลงวันรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๔๗๙ ได้รับรางวัลที่ ๑ ของสโมสรคณะราษฎร
• เพลงวันชาติ
• เพลงตื่นเถิด
• เพลงวันปีใหม่
• เพลงดอกไม้
• เพลงในน้ำมีปลาในนามีข้าว
เป็นต้น
  

 และนอกจากผลงานการประพันธ์เพลงไทยแล้ว ท่านยังมีผลงานด้านวิชาการและผลงานด้านวรรณกรรมที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง เช่น
  
• แต่งหนังสือดุริยางคศาสตร์ไทย ภาควิชาการ
• ดุริยสาส์น
• หนังสือโหมโรงดนตรีไทย
• คำอธิบายเพลงในหนังสือโน้ตเพลงไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้กรมศิลปกรพิมพ์จำหน่าย
• คำอธิบายศัพท์ต่างๆ ในหนังสือสารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
• แต่งเพลงพร้อมบทร้องหลักสูตรวิชาขับร้องเพลงไทย สำหรับนักเรียน เช่นเพลงหนีเสือ เพลงลาวสมเด็จ เพลงเต่ากินผักบุ้ง ฯลฯ
• เรื่องดนตรีไทยในหนังสือสารานุกรมสำหรับเยาวชนไทย เล่ม ๑ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสฉลอง ๒๐๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์
• บทละครเรื่องเศวตปักษี (The Phoenix ของสหประชาชาติ)
• ลิลิตอิหร่านราชธรรม
• เลือดสุพรรณ ทางสักวา
• กาพย์ขับไม้ กล่อม พระเศวตรีสุรคชาธาร
• บทร้องแก้วสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งจารึกไว้ที่ฐานพระเจดีย์ยุทธหัตถี อนุสรณ์สถานดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
• บทร้องเพลงไทยอีกหลายเพลง
เป็นต้น

 ทางด้านชีวิตครอบครัว ครูมนตรี ตราโมทแต่งงานครั้งแรก (พ.ศ.๒๔๗๕) กับนางลิ้นจี่ (บุรานนท์) มีบุตรที่ยังมีชีวิตอยู่ ๒ คน คือ นายฤทธี ตราโมท และนายศิลปี ตราโมท ต่อมาเมื่อนางลิ้นจี่ถึงแก่กรรม (พ.ศ.๒๔๗๘) ท่านจึงได้แต่งงานครั้งที่สอง (พ.ศ.๒๔๗๙) กับนางพูนทรัพย์ (นาฏประเสริฐ) มีบุตร ๒ คน คือ นางดนตรี ตราโมท และนายญาณี ตราโมท
  

ครูมนตรี ตราโมท ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๓๘ ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลนนทเวช สิริรวมอายุ ๙๕ ปี ๑ เดือน ๑๙ วัน
บรรณานุกรม
๑. ดุริยางศาสตร์ไทย ภาควิชาการ, มนตรี ตราโมท สำนักพิมพ์มติชน ๒๕๔๐
๒. สารานุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภาคประวัตินักดนตรีและนักร้อง ฉบับราชบัณฑิตยสถาน , ราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒

http://tcmc.nisit.kps.ku.ac.th


อ่านต่อ :http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=292654&chapter=173#ixzz12Kj9eHyK

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...