16 ธันวาคม 2552

เพลงเขมรพวง เถา

เพลงเขมรพวง เถา

ทำนองเพลงที่นักปราชญ์ทางดุริยางคศิลปไทยในสมัยโบราณได้แก่ให้มีสำเนียงเป็นเขมร มีอยู่มากมายหลายเพลง แต่มีอยู่เพลงหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าเพลงเขมรพวง เป็นอัตรา 2 ชั้น ใช้ร้องและบรรเลงกันมานมนาม มาเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ทรงปรับเพลงร้องสำหรับประกอบรูปภาพ (ตาโบลวีวอง) ขึ้นถวายในการรับรองแขกเมืองชาวต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่หลายเรื่องด้วยกัน แต่โดยเฉพาะในเรื่องขอมดำดิน ทรงบรรจุทำนองเพลงเขมรพวงให้ร้องในบทของพระประทุม (ท้าวพันธุม)พระนิพนธ์บทนั้นขึ้นต้นว่า "เมื่อนั้น พระประทุมสุริวงศ์ทรงขรรค์" เพลงร้องและเพลงดนตรีในชุดนี้ ได้รับความนิยมกันแพร่หลายมาก จนแม้แต่ผู้ที่มิใช่นักร้องและนักดนตรี ก็จำเอาไปร้องกันได้จนติดปาก และเนื่องจากความแพร่หลายนี้ จึงทำให้ผู้ที่ไม่รู้จักชื่อเพลงของเดิม เรียกเพลงเขมรพวง ไปตามบทร้องว่า เพลงเขมรพระประทุม และเรียกกันต่อ ๆ ไปจนเกือบจะฝั่งตัวเป็นชื่อจริง ๆ

มาเมื่อราว พ.ศ. 2460 หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้นำทำนองเพลงเขมรพวงหรือเขมรพระประทุม 2 ชั้น นั้นมาแต่งขยายขึ้นเป็นอัตรา 3 ชั้น โดยประดิษฐ์ให้มีสำนวนทำนองเป็นการกรอสำเนียงเขมร แบบเดียวกันกับเพลงเขมรเลียบนคร และเรียกชื่อตามของเดิมว่า "เขมรพวง" เมื่อได้นำออกบรรเลงสู่ประชาชนก็ได้รับความนิยมจากวงการดนตรีไทยอย่างแพร่หลาย และกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า เพลงเขมรพวงนี้แม้จะเป็นเพลงในสำนวนกรอแบบเดียวกันและได้แต่งขึ้นหลังจากเพลงเขมรเลียบนคร แต่ก็เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมแพร่หลายที่สุด ยิ่งกว่าเพลงใด ๆ ในบรรดาเพลงของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) แม้ผู้ที่มิใช้อยู่ในวงการดนตรีไทย ก็ได้นำไปดัดแปลงเป็นเพลงสมัยใหม่หลายครั้งหลายหน

ในสมัยที่นิยมร้องส่งเพลงเถากันทั่ว ๆ ไป หมื่นประโคมเพลงประสาน (ใจ นิตยผลิน) จึงตัดแต่งทำนองดนตรีจากอัตรา 2 ชั้น ของเดิมลงเป็นอัตราชั้นเดียวเพื่อบรรเลงติดต่อกันให้ครบเป็นเถา และได้ใช้กันมาจนปัจจุบันนี้

บทร้องเพลงเขมรพวงมีอยู่หลายอย่าง แต่ที่นิยมร้องกันโดยมากเป็นบทจากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ว่าดังนี้
บทร้องเพลงเขมรพวง
เจ้างามปลอดยอดรักของพรายแก้ว ได้มาแล้วแม่อย่าผลักให้กลับหนี
พี่ยอมตายไม่เสียหายแก่ชีวี (หนาน้องรักของพี่นี้เอย หนาน้องเอย)
แก้วพี่อย่าเพ่อพร่ำรำพันความ
พี่ผิดพี่ก็มาลุแก่โทษ จงคลายโกรธแม่อย่าถือว่าหยาบหยาม
พี่ชมโฉมโลมลูบด้วยใจงาม ทรามสวาทดิ้นไปไม่ไยดี
รอยเล็บพี่ยังเจ็บด้วยหยิกน้อง ขัดข้องเพราะเจ้าปัดสลัดพี่
ค้อนควักผลักพลิกด้วยหยิกตี ถ้อยทีถูกข่วนแต่ล้วนเล็บ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...